ญี่ปุ่นจัดการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันอาทิตย์ เพื่อตัดสินว่าจะสนับสนุนพรรคอนุรักษนิยมของนายกฯ ฟูมิโอะ คิชิดะ ให้ครองเสียงส่วนใหญ่ในสภาต่อไป หรือทำให้รัฐบาลของเขาอ่อนแอลง ซึ่งจะนำไปสู่ความไม่แน่นอนทางการเมือง
รายงานเอเอฟพีและรอยเตอร์เมื่อวันอาทิตย์ที่ 31 ตุลาคม 2564 กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้จะถือเป็นบททดสอบนายกรัฐมนตรีคิชิดะ ซึ่งประกาศให้เลือกตั้งใหม่ทันทีหลังเข้ารับตำแหน่งผู้นำพรรคเสรีประชาธิปไตย (แอลดีพี) เมื่อต้นเดือนตุลาคม ภายหลังนายกฯ โยชิฮิเดะ ซูกะ ลาออกหลังทำหน้าที่ได้เพียงปีเดียว ส่วนหนึ่งเพราะประชาชนไม่พอใจผลงานการรับมือวิกฤติโควิด-19
โครงการฉีดวัคซีนของญี่ปุ่นขับเคลื่อนได้ช้ากว่าประเทศเศรษฐกิจก้าวหน้าชาติอื่นๆ ในช่วงแรก แต่ขณะนี้มีประชากรญี่ปุ่นมากกว่า 70% ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว และอัตราการติดเชื้อลดลงอย่างมาก แต่ชาวญี่ปุ่นบางส่วนยังคงมีความกังวล
ผู้มีสิทธิเลือกตั้งในกรุงโตเกียวหลายคนบอกกับเอเอฟพีว่า การระบาดของโควิด-19 เป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจของพวกเขา เช่น ชิฮิโร ซาโตะ แม่ลูก่อนวัย 38 ปีกล่าวว่า เศรษฐกิจแย่ลงเพราะการระบาดของไวรัสโคโรนา เธอจึงต้องเปรียบเทียบการตอบสนองของพวกนักการเมือง แต่ก็มีผู้มีสิทธิเลือกตั้งบางคนเช่น ฮิโรยาซู โอนิชิ วัย 79 ปีที่บอกว่า เขากังวลภัยคุกคามทางทหารจากจีนมากกว่า
นายกฯ คิชิดะ ซึ่งเป็นนักการเมืองสายกลางวัย 64 ปี ให้คำมั่นว่าเขาจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่มูลค่าหลายสิบล้านล้านเยน เพื่อบรรเทาผลกระทบจากโรคระบาดต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่นซึ่งมีขนาดใหญ่อันดับ 3 ของโลก
เขายังบอกคร่าวๆ ถึงแผนต่อสู้ความเหลื่อมล้ำที่เพิ่มมากขึ้นเพราะนโยบายเป็นมิตรต่อธุรกิจในรัฐบาลของซูกะและของชินโซ อาเบะ โดยคิชิดะบอกว่า เขาจะกระจายความมั่งคั่งอย่างยุติธรรมมากขึ้นภายใต้นโยบายทุนนิยมใหม่ ซึ่งถึงขณะนี้ยังไม่มีรายละเอียดที่ชัดเจน
นอกจากการรับมือโรคระบาดและการกระตุ้นเศรษฐกิจแล้ว คิชิดะและพรรคของเขายังประกาศจะเพิ่มการใช้จ่ายด้านกลาโหมเพื่อต่อต้านภัยคุกคามจากจีนและเกาหลีเหนือ
คิชิดะเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีด้วยคะแนนสนับสนุนแค่ประมาณร้อยละ 50 ถือว่าต่ำที่สุดในรอบ 20 ปีสำหรับรัฐบาลชุดใหม่ของญี่ปุ่น เลือกตั้งครั้งนี้เขาประกาศเป้าหมายไว้เพียงการรักษาที่นั่งข้างมากในสภา 465 ที่นั่ง ให้ได้ที่อย่างน้อย 233 ที่นั่ง จากปัจจุบันที่พรรคของเขาและพรรคร่วมรัฐบาล โคเมโตะ มี ส.ส.รวมกัน 305 ที่นั่ง โดยแอลดีพีมี ส.ส. 276 ที่นั่ง
นักลงทุนและผู้สังเกตการณ์ทางการเมืองกำลังให้ความสนใจประเด็นที่ว่า แอลดีพี ซึ่งครองอำนาจบริหารอย่างต่อเนื่องเกือบตลอดนับแต่ก่อตั้งพรรคเมื่อปี 2498 จะรักษาที่นั่ง ส.ส.เกินครึ่งสภาของพรรคไว้ได้หรือไม่ หากไม่ได้ก็จะบั่นทอนฐานอำนาจในพรรคของเขา และจุดยืนของพรรคในการต่อรองกับพรรคโคเมโตะ
เลือกตั้งคราวนี้ พรรคฝ่ายค้าน 5 พรรคยังผนึกกำลังรวมกันเป็นพรรคเดียวเพื่อต่อสู้กับพรรครัฐบาลผสมในเขตเลือกตั้งต่างๆ ซึ่งนักวิเคราะห์กล่าวว่าทำให้หลายพื้นที่มีการต่อสู้ที่สูสี
จำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิก็เป็นตัวแปรสำคัญ เพราะหากมีผู้ใช้สิทธิมากก็มีแนวโน้มที่ฝ่ายค้านจะได้ประโยชน์ ถึงเวลา 14.00 น.มีผู้ใช้สิทธิแล้ว 21.5% จากผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 106 ล้านคน น้อยกว่าเลือกตั้งครั้งก่อนเล็กน้อย โดยครั้งที่แล้วมีชาวญี่ปุ่นออกมาใช้สิทธิ 53%
พรรคฝ่ายค้านบางพรรคเน้นนโยบายด้านสังคมที่พรรคอนุรักษนิยมของคิชิดะพยายามถอยห่าง เช่นการสมรสของคนเพศเดียวกันและการอนุญาตให้สามีภรรยาใช้คนละนามสกุลได้ คาดกันว่า พรรคประชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญซึ่งเป็นพรรคใหญ่ที่สุดของฝ่ายค้านจะได้ที่นั่งมากขึ้น แต่ก็ไม่มากพอที่จะท้าทายรัฐบาลผสมของคิชิดะ พรรคนี้เป็นพรรคเดียวที่มีนโยบายพุ่งเป้าหมายที่กลุ่มคนวัยทำงานที่อายุ 20 ถึง 30 ปีกว่า.