7 หนุ่มจากวงบีทีเอส บอยแบนด์เกาหลีใต้ชื่อดัง ได้รับเชิญให้เข้าทำเนียบขาวเพื่อหารือกับประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ในประเด็น การก่ออาชญากรรมที่เกิดจากความเกลียดชังชาวเอเชีย
บอยแบนด์เกาหลีใต้ BTS ปรากฏตัวในการแถลงข่าวประจำวันของทำเนียบขาว ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม โดยเจ็ดหนุ่มได้รับคำเชิญจากประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ เพื่อร่วมหารือในฐานะตัวแทนของเอเชีย ในประเด็นอาชญากรรมจากความเกลียดชังและการเลือกปฏิบัติต่อชาวเอเชีย (Photo by SAUL LOEB / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพุธที่ 1 มิถุนายน 2565 กล่าวว่า การมาเยือนทำเนียบขาวของบอยแบนด์ชื่อดังระดับโลกในวันอังคาร ไม่ได้มาเพื่อร้องเพลง แต่มาเพื่อเป็นตัวแทนชาวเอเชียในการส่งเสียงเรียกร้องให้หยุดการเหยียดชนชาติเอเชียและหยุดก่ออาชญากรรมต่อชาวเอเชียด้วยความเกลียดชัง
7 หนุ่มที่มาเยือนตามคำเชิญของประธานาธิบดีไบเดน สร้างความสะดุดตาด้วยลุคที่ดูเป็นผู้ใหญ่ในชุดสูทและเนคไทสีเข้ม ได้ยืนกล่าวให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนร่วมกับคารีน ฌ็อง-ปีแยร์ โฆษกทำเนียบขาว ในห้องบรรยายสรุปของทำเนียบขาว
ปาร์ค จีมิน หรือที่รู้จักกันในนาม จีมิน แสดงความคิดเห็นผ่านล่ามว่า วงบีทีเอสเองก็ได้รับความเสียหายจากอาชญากรรมที่เกิดจากความเกลียดชังที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐอเมริกา
ชูก้า สมาชิกอีกคน กล่าวว่า "ความแตกต่างไม่ใช่สิ่งที่ผิด ผมคิดว่าความเท่าเทียมกันเริ่มต้นเมื่อเราเปิดใจและยอมรับความแตกต่างทั้งหมดที่มี"
7 หนุ่มไม่ได้ตอบคำถามใดๆเพิ่มเติมจากสื่อมวลชน ก่อนเข้าประชุมกับไบเดน และทางทำเนียบขาวได้มีการบันทึกเนื้อหาการประชุมแบบดิจิทัลด้วย
ขณะที่บริเวณนอกรั้วทำเนียบขาว บรรดาแฟนคลับของวงบีทีเอส หรือที่มีชื่อเรียกว่า "อาร์มี่" ต่างมารวมตัวกันเพื่อให้กำลังใจศิลปินคนโปรด และหวังว่าอาจจะได้เห็นหน้าพวกเขาเหล่านั้นบ้าง
มีรายงานว่าการปรากฏตัวของบีทีเอสในช่วงสั้นๆที่ห้องบรรยายสรุปนั้น มีผู้ติดตามชมมากกว่า 300,000 คน ผ่านช่อง YouTube ของทำเนียบขาว ซึ่งเป็นตัวเลขผู้ชมที่สูงมากกว่าปกติเลยทีเดียว
"ประธานาธิบดีไบเดนออกคำเชิญวงบีทีเอสมาในครั้งนี้เพื่อหารือถึงความจำเป็นในการรวมตัวเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน โดยหวังว่าบีทีเอสจะเป็นทูตแห่งเอเชียเพื่อต่อต้านความเกลียดชัง, อาชญากรรมและการเลือกปฏิบัติต่อชาวเอเชียในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นประเด็นร้อนแรงเด่นชัดมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา" ทำเนียบขาวกล่าว
ความรู้สึกต่อต้านชาวเอเชียและความรุนแรงในสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้นในช่วงการระบาดของโคโรนาไวรัส โดยฝ่ายการเมืองของสหรัฐฯประณามว่าต้นตอของโรคระบาดมาจากจีน
ในปี 2564 อาชญากรรมที่เกิดจากความเกลียดชังต่อชาวเอเชียเพิ่มขึ้นถึง 339% ตามรายงานของศูนย์ศึกษาความเกลียดชังและลัทธิสุดโต่งของสหรัฐฯ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นายกฯ พบค่ายหนังยักษ์มะกันหวังดันไทยเป็นฮับถ่ายทำภาพยนตร์
นายกฯ พบค่ายหนังยักษ์ใหญ่สหรัฐฯ ดันไทยเป็นฮับถ่ายทำภาพยนตร์ โชว์ซอฟพาวเวอร์ทำรายได้เข้าประเทศ