Airbnb เตรียมยุติบริการจองที่พักในจีน

บริษัทให้บริการรับจองที่พัก แอร์บีเอ็นบี (Airbnb) เตรียมปิดการให้บริการในจีน เนื่องจากการล็อกดาวน์ต่อเนื่องยาวนานจากการระบาดใหญ่ของไวรัสโคโรนา และยังไม่มีสัญญาณว่าสถานการณ์จะสิ้นสุดเมื่อใด

แฟ้มภาพ โลโก้ แอร์บีเอ็นบี (Airbnb) บริษัทให้บริการจองที่พักออนไลน์สัญชาติอเมริกัน (Photo by Lionel BONAVENTURE / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันอังคารที่ 24 พฤษภาคม 2565 กล่าวว่า แอร์บีเอ็นบี (Airbnb) บริษัทสัญชาติอเมริกันที่ดำเนินการตลาดออนไลน์สำหรับที่พักทั่วโลก เตรียมยุติการให้บริการรับจองที่พักในประเทศจีนและการเปิดให้แชร์ประสบการณ์การณ์เข้าพักในจีน โดยจะเปิดให้ความช่วยเหลือด้านข้อมูลสำหรับแผนการเดินทางในประเทศอื่นๆแทน

เนื่องด้วยสถานการณ์ที่ยากลำบากในจีน จากการระบาดของโรคโควิดที่ยังไม่มีแนวโน้มลดลง การใช้นโยบายปลอดโควิดจนต้องมีการล็อกดาวน์อย่างยาวนาน และรัฐบาลจีนยังคงยืนยันจะใช้วิธีเช่นนี้ในการรับมือกับการระบาดไปเรื่อย ๆ ซึ่งไม่รู้ว่าจะสิ้นสุดลงเมื่อใด ทำให้การดำเนินการทางธุรกิจขาดตอนอย่างต่อเนื่อง ทางบริษัทฯจึงจำเป็นต้องปิดให้บริการในเร็วๆนี้

แอร์บีเอ็นบี เปิดตัวธุรกิจในประเทศจีนเมื่อ 6 ปีที่แล้ว และให้บริการจองการเข้าพักที่บ้านสำหรับนักเดินทางกว่า 25 ล้านคน แต่ล่าสุดตามรายงานของบริษัทฯ การจองที่พักในจีนมีสัดส่วนเหลือเพียง 1% ของการจองผ่านแอร์บีเอ็นบี ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

แอร์บีเอ็นบี เผชิญกับการแข่งขันทางธุรกิจอย่างดุเดือดในจีน และโควิด-19 ทำให้การดำเนินงานที่นั่นซับซ้อนและมีต้นทุนเพิ่มมากขึ้น

จีนยังคงดำเนินนโยบายปลอดโควิด และกำหนดให้มีการล็อกดาวน์อย่างจริงจัง รวมทั้งจำกัดการเดินทางในหลายเมือง แม้ว่าหลายพื้นที่ของโลกจะเปลี่ยนไปใช้ชีวิตร่วมกับไวรัสโคโรนาแล้วก็ตาม อีกทั้งมาตรการควบคุม ซึ่งรวมถึงคำสั่งให้อยู่แต่ในบ้านในเซี่ยงไฮ้ และมาตรการควบคุมอีกหลายอย่างในปักกิ่ง ยิ่งสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจอย่างหนัก

แอร์บีเอ็นบี คาดว่าการท่องเที่ยวขาออกจากประเทศจีนที่เคยเฟื่องฟูก่อนการระบาดใหญ่ น่าจะฟื้นตัวกลับมาได้ หากมีการผ่อนคลายมาตรการโควิดของรัฐบาล รวมถึงการเปิดพรมแดนประเทศอีกครั้ง

การจองที่พักผ่านแอร์บีเอ็นบีทั่วโลก ทำสถิติสูงสุดใหม่ในไตรมาสแรกของปีนี้ ตามรายงานผลประกอบการล่าสุด ของบริษัท เหมือนเป็นการส่งสัญญาณว่า ความต้องการการเดินทางเริ่มกลับมาอีกครั้งหลังจากหยุดนิ่งไปในช่วงการระบาดใหญ่ของโควิด-19.