รัฐบาลทหารเมียนมา จะอนุญาตให้นักท่องเที่ยวที่ต้องการเข้าประเทศ สามารถยื่นขอวีซ่าได้อีกครั้ง หลังจากหยุดพักไปกว่า 2 ปี แต่กลุ่มนักเคลื่อนไหวต่างเรียกร้องนักท่องเที่ยวต่างชาติให้พิจารณาดีๆ
แฟ้มภาพ ผู้คนรวมตัวสวดมนต์ที่เจดีย์ชเวดากองในย่างกุ้ง เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2563 (Photo by Mladen ANTONOV / AFP)
เอเอฟพีรายงานจากกรุงย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 12 พฤษภาคม 2565 กล่าวว่า เมียนมาปิดพรมแดนประเทศสำหรับการท่องเที่ยวตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563 ซึ่งเป็นช่วงเริ่มต้นของการระบาดไวรัสโคโรนา อีกทั้งยังโดดเดี่ยวตัวเองจากเหตุกองทัพทหารโค่นล้มรัฐบาลพลเรือนของอองซานซูจีในเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ทำให้เกิดการประท้วงครั้งใหญ่และการปราบปรามผู้เห็นต่างอย่างเหี้ยมโหดโดยรัฐบาลทหารในปัจจุบัน
สื่อท้องถิ่นรายงานว่า หลังจากสถานการณ์โรคระบาดดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงความสงบภายในประเทศที่เริ่มคงที่ รัฐบาลทหารเมียนมาจึงเห็นควรให้มีการเปิดประเทศเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยการท่องเที่ยวเป็นลำดับแรก โดยการยื่นขอวีซ่าอิเลคทรอนิคส์สำหรับนักท่องเที่ยว จะสามารถดำเนินการได้ตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม เป็นต้นไป แต่ยังไม่มีกำหนดวันที่แน่ชัดว่านักท่องเที่ยวกลุ่มแรกจะสามารถเข้าประเทศได้เมื่อใด
อย่างไรก็ดี บรรดากลุ่มนักเคลื่อนไหวต่างออกมาเตือนว่า กองทัพทหารมีผลประโยชน์แอบแฝงอยู่มากมายในระบบเศรษฐกิจของเมียนมา เช่น เหมือง, ธนาคาร, ปิโตรเลียม, เกษตรกรรม และการท่องเที่ยว ซึ่งสื่อได้ว่า เม็ดเงินที่จะได้รับจากนักท่องเที่ยว มีแนวโน้มว่าจะวิ่งเข้าสู่กระเป๋าเงินของรัฐบาลเผด็จการทหารเช่นกัน
“แม้ว่านักท่องเที่ยวต่างชาติจะหลีกเลี่ยงการใช้บริการโรงแรมและการคมนาคมขนส่งที่เป็นของกองทัพทหารเมียนมาและพรรคพวก แต่พวกเขาก็ยังให้เงินทุนแก่รัฐบาลทหารผ่านค่าธรรมเนียมวีซ่า, การซื้อประกัน และภาษี ดังนั้นเราจึงขอเรียกร้องให้นักท่องเที่ยวพิจารณาให้ดีหากจะเดินทางมาหาความสุขในประเทศแห่งนี้” กลุ่มนักเคลื่อนไหวกล่าว
ภายหลังการปกครองโดยทหารมานานหลายทศวรรษ หลังจากนั้น เมียนมาเริ่มเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตยในปี 2554 ก่อนเปิดประเทศอย่างเป็นทางการเพื่อรับนักท่องเที่ยว และกลายเป็นที่นิยมในหมู่นักเดินทางที่แสวงหาจุดหมายปลายทางที่แปลกใหม่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
แต่ภาคการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบอย่างหนักจากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 โดยเมียนมามีสถิติผู้ติดเชื้อสูงสุด 40,000 รายต่อวันในปีที่แล้ว และมีผู้เสียชีวิตรวมเกือบ 20,000 ราย
การปะทะกันระหว่างกลุ่มต่อต้านรัฐประหารและกองกำลังรักษาความมั่นคงภายหลังการยึดอำนาจของกองทัพทหาร ทั้งในเมืองหลักอย่างย่างกุ้งและมัณฑะเลย์ จนทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 1,800 คน และกว่า 13,000 คนถูกจับกุมตั้งแต่เกิดรัฐประหาร เป็นสาเหตุอีกประการที่บั่นทอนเศรษฐกิจในประเทศด้วยเช่นกัน โดยบริษัทต่างชาติถอนธุรกิจออกจากประเทศไปจำนวนมาก
ด้านเที่ยวบินพาณิชย์สำหรับนักเดินทางเพื่อธุรกิจ กลับมาให้บริการแล้วในเดือนเมษายน โดยผู้เดินทางเข้าประเทศต้องเข้ารับการตรวจโควิด-19 เมื่อเดินทางมาถึง แต่ไม่ต้องกักตัวอีกต่อไป.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ชาวเบตง-มาเลย์ ประสานสามัคคี วิ่งสู้มะเร็งซื้ออุปกรณ์การแพทย์
ชาวอำเภอเบตง นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย ร่วมกิจกรรมวิ่งสู้มะเร็ง นำรายได้จัดซื้อเครื่องมือทางการแพทย์โรงพยาบาลเบตง
นายกฯ นำยึด 'โทลูอีน' สารตั้งต้นยาเสพติด ล็อตใหญ่ 90 ตัน
'เศรษฐา' ลงพื้นที่ท่าเรือแหลมฉบับ นำยึด 'โทลูอีน' สารตั้งต้นยาเสพติดล็อตใหญ่กว่า 90 ตัน พบต้นทางเกาหลีใต้ปลายทางเมียนมา กำชับ ตร. ดูแลสวัสดิการเจ้าหน้าที่ หลังเกิดเหตุปะทะ อ.เชียงดาว
ยิ่งใหญ่! งานบวงสรวงพญาศรีสัตตนาคราช 'น้ำตาล-กัปตันชมพู่' ร่วมรำถวาย
เปิดงานบวงสรวงพญาศรีสัตตนาคราช 'น้องน้ำตาล-กัปตันชมพู่' พร้อมสาวงามนับพัน รำถวายพ่อปู่ พลังศรัทธายิ่งใหญ่เหนือคำบรรยาย จัดพานบายศรีสูงสุดในไทย
'พัชรวาท' สั่งนำเฮลิคอปเตอร์ ค้นหานักท่องเที่ยวสูญหายภูสอยดาว
ระดมกำลังเร่งค้นหานักท่องเที่ยวสูญหาย บนภูสอยดาว “พัชรวาท” สั่งนำเฮลิคอปเตอร์ ปฏิบัติการค้นหา