พายุทรายถล่มอิรัก ทำป่วยพุ่งกว่า 1,000 คน

ชาวอิรักกว่า 1,000 คนถูกนำส่งโรงพยาบาลด้วยโรคระบบทางเดินหายใจ เนื่องจากเกิดพายุทรายพัดถล่มประเทศเป็นระลอกที่ 7 แล้วในเดือนที่ผ่านมา

ชายคนหนึ่งเดินข้ามถนนระหว่างเกิดพายุทรายฤดูใบไม้ผลิในกรุงแบกแดด เมืองหลวงของอิรัก เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม อิรักได้รับผลกระทบจากพายุดังกล่าวหลายครั้งในเดือนเมษายน ทำให้เที่ยวบินหยุดชะงัก และประชาชนหลายสิบคนเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลด้วยปัญหาระบบทางเดินหายใจ (Photo by Sabah ARAR / AFP)

เอเอฟพีรายงานอ้างอิงสื่อท้องถิ่นในกรุงแบกแดด ประเทศอิรัก เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 5 พฤษภาคม 2565 กล่าวว่า พลเมืองผู้อยู่อาศัยใน 6 จังหวัดจาก 18 จังหวัดของอิรัก รวมถึงกรุงแบกแดดและพื้นที่ทางตะวันตกอันกว้างใหญ่ของจังหวัดอัล-อันบาร์ ต้องเผชิญกับกลุ่มเมฆฝุ่นหนาทึบปกคลุมท้องฟ้าอีกครั้ง เฉกเช่นหลายๆครั้งที่ผ่านมาในเดือนก่อน

เจ้าหน้าที่ทางการของจังหวัดอัล-อันบาร์และคีร์คูก ซึ่งอยู่ทางเหนือของแบกแดด และได้รับผลกระทบจากพายุทรายระลอกใหม่ ขอร้องให้ประชาชนอยู่แต่ภายในบ้านและที่พัก ขณะที่โรงพยาบาลในอัล-อันบาร์ เต็มไปด้วยผู้ป่วยที่มีภาวะหายใจติดขัดมากกว่า 700 ราย

จังหวัดซาลาเฮดดินทางตอนกลางของประเทศ มีรายงานผู้ป่วยที่มีปัญหาทางเดินหายใจมากกว่า 300 รายในโรงพยาบาล ขณะที่จังหวัดดิวานิยาและจังหวัดนาจาฟ ทางใต้ของแบกแดด มีรายงานผู้ป่วยด้วยอาการเดียวกัน จังหวัดละกว่า 100 ราย ตามรายงานของสื่อท้องถิ่น ไอเอ็นเอ

อิรักกำลังเผชิญกับภาวะความเปลี่ยนแปลงด้านสภาพภูมิอากาศ เห็นได้ชัดจากปริมาณฝนที่แล้งมายาวนาน ทำให้อุณหภูมิเฉลี่ยของประเทศ สูงขึ้นเรื่อยๆในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าปัจจัยเหล่านี้จะนำมาซึ่งภัยพิบัติทางสังคมและเศรษฐกิจของอิรัก ที่ยังคงไม่ฟื้นตัวจากผลของสงครามในอดีต

เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ธนาคารโลกเตือนอิรักว่าอาจมีทรัพยากรน้ำลดลง 20% ภายในปี 2593 เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และเมื่อต้นเดือนเมษายน ทางการอิรักเองก็ออกมาคาดการณ์ว่า อิรักอาจเผชิญกับ "ฝุ่น 272 วัน" ต่อปี ในทศวรรษที่จะถึงนี้

กระทรวงสิ่งแวดล้อมของอิรักกล่าวว่า วิธียับยั้งการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศที่จะสามารถช่วยได้ก็คือ การเร่งปลูกพืชพรรณและสร้างป่าไม้ให้ทำหน้าที่เป็นตัวป้องกันลม.

เอเอฟพีรายงานอ้างอิงสื่อท้องถิ่นในกรุงแบกแดด ประเทศอิรัก เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 5 พฤษภาคม 2565 กล่าวว่า พลเมืองผู้อยู่อาศัยใน 6 จังหวัดจาก 18 จังหวัดของอิรัก รวมถึงกรุงแบกแดดและพื้นที่ทางตะวันตกอันกว้างใหญ่ของจังหวัดอัล-อันบาร์ ต้องเผชิญกับกลุ่มเมฆฝุ่นหนาทึบปกคลุมท้องฟ้าอีกครั้ง เฉกเช่นหลายๆครั้งที่ผ่านมาในเดือนก่อน

เจ้าหน้าที่ทางการของจังหวัดอัล-อันบาร์และคีร์คูก ซึ่งอยู่ทางเหนือของแบกแดด และได้รับผลกระทบจากพายุทรายระลอกใหม่ ขอร้องให้ประชาชนอยู่แต่ภายในบ้านและที่พัก ขณะที่โรงพยาบาลในอัล-อันบาร์ เต็มไปด้วยผู้ป่วยที่มีภาวะหายใจติดขัดมากกว่า 700 ราย

จังหวัดซาลาเฮดดินทางตอนกลางของประเทศ มีรายงานผู้ป่วยที่มีปัญหาทางเดินหายใจมากกว่า 300 รายในโรงพยาบาล ขณะที่จังหวัดดิวานิยาและจังหวัดนาจาฟ ทางใต้ของแบกแดด มีรายงานผู้ป่วยด้วยอาการเดียวกัน จังหวัดละกว่า 100 ราย ตามรายงานของสื่อท้องถิ่น ไอเอ็นเอ

อิรักกำลังเผชิญกับภาวะความเปลี่ยนแปลงด้านสภาพภูมิอากาศ เห็นได้ชัดจากปริมาณฝนที่แล้งมายาวนาน ทำให้อุณหภูมิเฉลี่ยของประเทศ สูงขึ้นเรื่อยๆในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าปัจจัยเหล่านี้จะนำมาซึ่งภัยพิบัติทางสังคมและเศรษฐกิจของอิรัก ที่ยังคงไม่ฟื้นตัวจากผลของสงครามในอดีต

เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ธนาคารโลกเตือนอิรักว่าอาจมีทรัพยากรน้ำลดลง 20% ภายในปี 2593 เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และเมื่อต้นเดือนเมษายน ทางการอิรักเองก็ออกมาคาดการณ์ว่า อิรักอาจเผชิญกับ "ฝุ่น 272 วัน" ต่อปี ในทศวรรษที่จะถึงนี้

กระทรวงสิ่งแวดล้อมของอิรักกล่าวว่า วิธียับยั้งการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศที่จะสามารถช่วยได้ก็คือ การเร่งปลูกพืชพรรณและสร้างป่าไม้ให้ทำหน้าที่เป็นตัวป้องกันลม.