เสื้อฟุตบอลประวัติศาสตร์ของมาราโดนา ถูกประมูลไปด้วยราคากว่า 300 ล้านบาท

เสื้อฟุตบอลทีมชาติอาร์เจนตินา ที่ ดิเอโก มาราโดนาสวมใส่ในรอบ 8 ทีมสุดท้ายในการแข่งขันกับทีมชาติอังกฤษในฟุตบอลโลก ปี 2529 ที่ประเทศเม็กซิโก ถูกนำออกมาประมูลและราคาสุดท้ายจบที่ 316 ล้านบาท

แฟ้มภาพ เจ้าหน้าที่ของสถาบันประมูลโซเธบีส์ ในนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา กำลังจัดวางเสื้อฟุตบอลของดิเอโก มาราโดนา ตำนานนักเตะชื่อดังทีมชาติอาร์เจนตินา ที่สวมใส่ในการแข่งฟุตบอลโลกปี 2529 ในนัดที่พบกับทีมชาติอังกฤษ และทำประตูด้วย "หัตถ์พระเจ้า" อันโด่งดัง ถ่ายภาพเมื่อวันที่ 20 เมษายน ในการประมูลเสื้อตัวนี้เป็นวันแรก ก่อนจบการประมูลในวันที่ 4 พฤษภาคมที่ราคาสุดท้ายกว่า 9.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทย 316 ล้านบาท ซึ่งราคาสูงเป็นสถิติในหมวดของที่ระลึกทางกีฬา (Photo by ADRIAN DENNIS / AFP)

เอเอฟพีรายงานจากสถาบันประมูลโซเธบีส์ ในนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 5 พฤษภาคม 2565 กล่าวว่า เสื้อฟุตบอลทีมชาติอาร์เจนตินา ที่ ดิเอโก มาราโดนาสวมใส่ และทำประตูด้วยมือ หรือที่รู้จักกันว่า "หัตถ์พระเจ้า" ถูกนำออกมาประมูล ก่อนใช้เวลา 15 วันในการปิดประมูลด้วยราคาสุดท้ายที่ 9.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทย 316 ล้านบาท

การประมูลที่เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่วันที่ 20 เมษายน มีผู้เข้าร่วมประมูล 7 ราย ต่างเสนอราคากันอย่างดุเดือดเพื่อให้ได้ครอบครองเสื้อฟุตบอลที่มีค่าทางประวัติศาสตร์ตัวนี้ ก่อนที่การประมูลจะจบลงเมื่อวันพุธ และมีผู้ประมูลรายหนึ่งได้ไปในราคาดังกล่าว

สถาบันโซเธบีส์ กล่าวว่า เสื้อประวัติศาสตร์ตัวนี้คงเป็นเสื้อฟุตบอลที่มีคนอยากได้ไปครอบครองมากที่สุดเท่าที่เคยมีการประมูลมา และราคาที่สูงเป็นสถิตินั้นเหมาะสมแล้วกับสิ่งที่เป็นเครื่องเตือนใจของช่วงเวลาสำคัญทางประวัติศาสตร์การกีฬาแห่งศตวรรษที่ 20

เสื้อฟุตบอลของมาราโดนาตัวนี้ เป็นสมบัติดั้งเดิมของ สตีฟ ฮอดจ์ นักฟุตบอลทีมชาติอังกฤษในขณะนั้น ที่ได้ทำการแลกเสื้อกับมาราโดนาหลังจบการแข่งขันที่ทีมชาติอาร์เจนตินาเอาชนะทีมชาติอังกฤษไปได้ 2 ประตูต่อ 1 จากการเหมาทำประตูของมาราโดนาในนัดดังกล่าว

โดย 1 ใน 2 ประตูที่มาราโดนาทำได้ มาจากการทำประตูด้วยมือ (และกรรมการมองไม่เห็น จึงตัดสินให้ได้ประตู) ซึ่งได้รับการกล่าวขานในประวัติศาสตร์ฟุตบอลว่าเป็น "หัตถ์พระเจ้า"

อาร์เจนตินาผ่านอังกฤษ เข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศ และเอาชนะทีมชาติเยอรมนีตะวันตกไป 3 ประตูต่อ 2 คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกในปีนั้นอย่างยิ่งใหญ่พร้อมเหตุการณ์อันเป็นประวัติศาสตร์ให้กล่าวขานจนถึงปัจจุบัน

มาราโดนา เสียชีวิตจากภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันที่บ้านพักในกรุงบัวโนสไอเรส ในปี 2563 ขณะมีอายุ 60 ปี หลังจากเข้ารับการผ่าตัดอาการเลือดคั่งในสมอง ปิดตำนานนักเตะที่เก่งที่สุดคนหนึ่งเท่าที่โลกนี้เคยมีมา.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'เชลซี' แคมป์ร้าวแข้งฝรั่งเศสโดน 'เอ็นโซ' เหยียด เจ้าตัวโร่ขอโทษแล้ว

กลายเป็นประเด็นใหญ่ และวาระระดับชาติ เมื่อ เอ็นโซ แฟร์นานเดซ กองกลางทีมชาติอาร์เจนตินา สังกัด เชลซี ไลฟ์สดฉลองแชมป์โกปา อเมริกา 2024 ที่ตน และเพื่อนๆ นักเตะอยู่บนรถบัส ซึ่งมีการร้องเพลงล้อเลียน หรือเหยียดผู้เล่นทีมชาติฝรั่งเศส จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก

'เซาธ์เกต' ประกาศอำลา 'อังกฤษ' ปิดฉากกุนซือใหญ่ 8 ปี หลังแห้วแชมป์ยูโร 2024

แกเร็ธ เซาธ์เกต ประกาศลาออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีมชาติอังกฤษอย่างเป็นทางการ หลังคุมทีมมาอย่างยาวนาน 8 ปีเต็ม เป็นจำนวนทั้งสิ้น 102 นัด ซึ่งแมตช์ล่าสุดคือเกมยูโร 2024 รอบชิงชนะเลิศที่แพ้ให้กับสเปน 1-2 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 14 ก.ค.ที่ผ่านมา

'เลาตาโร' ซัดชัยต่อเวลา 'ฟ้าขาว' เฉือน 'โคลอมเบีย' 1-0 ซิวแชมป์โกปา อเมริกา

อาร์เจนตินา สังเวย ลิโอเนล เมสซี กัปตันทีม เอาชนะ โคลอมเบีย ช่วงต่อเวลาพิเศษ 1-0 คว้าแชมป์โคปา อเมริกา สมัย 16 ที่เมืองไมอามี วันอาทิตย์ที่ 14 กรกฎาคม ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐอเมริกา

‘สเปน‘ ดับฝัน ’อังกฤษ‘ เฉือนชัย 2-1 ครองแชมป์ยูโร สมัยที่ 4

"กระทิงดุ" สเปน เอาชนะ "สิงโตคำราม" อังกฤษ แบบหวุดหวิด 2-1 ด้วยประตูชัยท้ายเกมของ มิเกล โอยาร์ซาบัล กองหน้าสังกัด รีล โซเซียดัด ศึกยูโร 2024 รอบชิงชนะเลิศ ที่สนาม โอลิมปิกสตาเดียน กรุงเบอร์ลิน วันอาทิตย์ที่ 14 กรกฎาคม

'อังกฤษ'ลุ้นแชมป์รอบ58ปี เจอด่านหิน'สเปน'คืนนี้ อาจถึงดวลจุดโทษ

ในที่สุดศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป "ยูโร 2024" ก็เดินทางมาถึงนัดสุดท้ายประจำทัวร์นาเมนต์ เป็นการลงสนามฟาดแข้งนัดชิงชนะเลิศ ระหว่าง "กระทิงดุ" สเปน อดีตแชมป์ 3 สมัย พบ "สิงโตคำราม" อังกฤษ รองแชมป์เมื่อหนก่อน แข่งขัน 02.00น. (เช้าตรู่ 10 ก.ค.) ตามเวลาไทย พีพีทีวี เอชดี หมายเลข 36 และทรู พรีเมียร์ ฟุตบอล 3 ถ่ายทอดสด

ปธ.ยูฟ่า อัดสื่อเมืองผู้ดี เลิกทำข่าวด้อยค่า 'เซาธ์เกต' และควรออกมาขอโทษ

อเล็กซานเดอร์ เซเฟริน ประธานสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป หรือยูฟ่า ออกมาประณามคำวิพากษ์วิจารณ์จากบรรดาสื่อเมืองผู้ดีที่มุ่งเป้าไปที่ แกเร็ธ เซาธ์เกต ว่าเป็นเรื่องน่าละอาย และเรียกร้องคำขอโทษอีกด้วย