สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ตรัสว่าพระองค์เคยขอพบกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ในประเด็นยูเครน และเปรียบเทียบสงครามที่ดำเนินอยู่ว่าเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์แบบเดียวกันกับรวันดา

เอเอฟพีรายงานจากนครรัฐวาติกัน เมื่อวันอังคารที่ 3 พฤษภาคม 2565 กล่าวว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส องค์ประมุขแห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิก ทรงให้สัมภาษณ์กับสื่อและตรัสถึงสถานการณ์การสู้รบในยูเครนว่า พระองค์เคยส่งข้อความถึงประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ว่า พระองค์ยินดีที่จะไปมอสโก เพื่อพบและพูดคุยในประเด็นสงครามกับยูเครน แต่ปูตินก็ไม่ได้ตอบกลับมา และพระองค์คิดว่าปูตินน่าจะยังไม่อยากพบพระองค์ในเวลานี้
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสทรงกังวลพระทัยว่า หากไม่เร่งหยุดการสู้รบให้เร็วที่สุด สถานการณ์จะเลวร้ายเหมือนที่เคยเกิดขึ้นในรวันดา ซึ่งมีผู้เสียชีวิตไปทั้งหมดราว 800,000 รายในช่วงเวลา 100 วัน ในปี 2537 จากเหตุการณ์ที่กลุ่มชาติพันธุ์ฮูตูหัวรุนแรงกวาดล้างชนกลุ่มน้อยทุตซีในประเทศรวันดา เป็นการสังหารหมู่ครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งของศตวรรษที่ 20
สมเด็จพระสันตะปาปาทรงเรียกร้องสันติภาพในยูเครนซ้ำแล้วซ้ำเล่า และประณามว่าเป็น "สงครามที่โหดร้ายและไร้เหตุผล" โดยเลี่ยงไม่ตรัสถึงชื่อปูตินหรือรัสเซีย
“ตอนนี้ฉันจะไม่ไปเคียฟ ฉันรู้สึกว่ายังไม่ควรไปที่นั่น ฉันต้องไปมอสโกก่อน ฉันต้องพบกับปูตินก่อน” พระองค์ตรัสอย่างเด็ดเดี่ยว.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รัสเซียพร้อมหนุนเวเนซุเอลาอย่างไม่มีเงื่อนไข ในความขัดแย้งกับสหรัฐฯ
ท่ามกลางความตึงเครียดที่ทวีความรุนแรงขึ้นระหว่างสหรัฐฯ และเวเนซุเอลา มอสโกได้ให้คำมั่นว่าจะสนับสนุนการากัสอย่างไม่มีเงื่อนไข คำประกาศดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันจันทร์โดยรัฐบาลของทั้งสองประเทศ หลังจากการสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่าง เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ-รัฐมนตรีต่างประเทศของรัสเซีย และอีวาน กิล-รัฐมนตรีต่างประเทศของเวเนซุเอลา
รัสเซีย เตรียมพร้อมลากยาวสงครามอีกปี
ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ตีความคำแถลงล่าสุดของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ว่าเป็นหลักฐานแสดงถึงความเต็มใจที่จะทำสงครามในยูเค
ทำไม ‘ดอนบาส’ จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับยูเครน
อนาคตของภูมิภาคดอนบาสยังคงเป็นประเด็นสำคัญในการเจรจาเรื่องยูเครนในกรุงเบอร์ลิน ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน-ผู้นำเครมลิน เรี

