อังกฤษเล็งกลับมาเปิดสถานทูตในกรุงเคียฟอีกครั้ง พร้อมพิจารณาส่งรถถังให้โปแลนด์

บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เปิดเผยว่า สถานทูตอังกฤษในกรุงเคียฟ ของยูเครน ซึ่งปิดทำการไปตั้งแต่ต้นปีเนื่องจากการสู้รบระหว่างยูเครนและรัสเซีย จะกลับมาเปิดทำการอีกครั้งในสัปดาห์หน้า และกำลังพิจารณาส่งรถถังของอังกฤษไปยังโปแลนด์ เพื่อชดเชยให้โปแลนด์สามารถส่งรถถังของตัวเองไปให้กองกำลังยูเครนใช้ในการรับมือกับรัสเซีย

นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของอังกฤษ กล่าวในการแถลงข่าวที่กรุงนิวเดลี ระหว่างภารกิจเยือนอินเดีย เมื่อวันที่ 22 เมษายน (Photo by Ben Stansall / POOL / AFP)

เอเอฟพีรายงานจากกรุงนิวเดลี ในการเยือนอินเดียของบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เมื่อวันศุกร์ที่ 22 เมษายน 2565 กล่าวว่า นายกจอห์นสัน ซึ่งอยู่ในระหว่างภารกิจเยือนอินเดียเป็นเวลา 2 วัน กล่าวในงานแถลงข่าวกับสื่อมวลชนเกี่ยวกับประเด็นการสู้รบในยูเครนว่า “ในสัปดาห์หน้า อังกฤษจะเปิดทำการสถานทูตในเมืองหลวงของยูเครนอีกครั้ง และเรากำลังพิจารณาส่งรถถังของเราไปยังโปแลนด์ เพื่อแลกเปลี่ยนให้พวกเขาช่วยส่ง T-72 (รถถัง) บางส่วนไปยังยูเครน”

ในเดือนกุมภาพันธ์ รัฐบาลอังกฤษย้ายภารกิจทางการทูตหลักในยูเครนจากกรุงเคียฟ ไปยังเมืองลวิฟ ทางฝั่งตะวันตกของประเทศ ไม่นานก่อนที่รัสเซียจะสั่งทหารบุกเข้ายูเครน และตามมาด้วยการถอน เมลินดา ซิมมอนส์ เอกอัครราชทูตอังกฤษออกจากยูเครน ตอนต้นเดือนมีนาคม ตามคำสั่งของลิซ ทรัสส์ รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย เนื่องจากสถานการณ์การสู้รบในขณะนั้นมีแนวโน้มรุนแรง

ขณะที่ประเทศตะวันตกอย่างฝรั่งเศส, สเปน และอิตาลี ได้กลับมาเปิดทำการสถานทูตของตนในกรุงเคียฟแล้ว ส่วนประเทศอื่นๆ มีกำหนดจะกลับมาเปิดทำการสถานทูตดังเดิมเร็วๆ นี้เช่นกัน

ในประเด็นนี้ ลิซ ทรัสส์กล่าวในถ้อยแถลงอีกฉบับในลอนดอนว่า การเปิดทำการสถานทูตอังกฤษอีกครั้งเป็นเพราะเล็งเห็นถึงความเข้มแข็งและความสามารถที่ไม่ธรรมดาของยูเครนในการต่อต้านกองกำลังรัสเซีย

แม้จะยังไม่มีการระบุวันที่แน่ชัดสำหรับการกลับมาเปิดทำการ แต่กระทรวงการต่างประเทศเครือจักรภพและการพัฒนา (เอฟซีดีโอ) กล่าวว่าสถานเอกอัครราชทูตกำลังดำเนินการในเรื่องระบบรักษาความปลอดภัย อีกทั้งยังแนะนำชาวอังกฤษทุกคนให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังยูเครน แม้ว่าสถานทูตจะกลับมาเปิดทำการปกติแล้วก็ตาม.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กต. เร่งชี้แจงทูตอินเดีย รื้อถอนสิ่งก่อสร้างเพื่อควบคุมพื้นที่ ไม่ใช่เทวสถาน

นางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงแนวทางของกระทรวงการต่างประเทศ ต่อสถานการณ์ไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะในห้วงเวลาที่ทั้งสองฝ่ายอยู่ระหว่างการประชุม เช่น วานนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ

กองทัพแจงรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างแปลกปลอมในพื้นที่อธิปไตยไทย ไม่ใช่ศาสนสถาน

ศูนย์แถลงข่าวร่วม สถานการณ์ไทย-กัมพูชา ที่สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ตามที่มีการเผยแพร่ภาพและคลิปวิดีโอในสื่อสังคมออนไลน์เกี่ยวกับการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างซึ่งมีลักษณะคล้ายประติมากรรมทางศาสนา ในพื้นที่ใกล้แนวชายแดนไทย–กัมพูชา จนก่อให้เกิดความห่วงกังวลและการตีความที่หลากหลายในสังคมนั้น

นายกฯ ลั่นทำลายรูปปั้นสัญลักษณ์เขมร เทียบไม่ได้กับทหารไทยขาขาด มองอินเดียตำหนิ ให้เป็นเรื่องแค่ 2 ประเทศ

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย - กัมพูชา ภายหลังมีการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปหรือ GBC ระดับเลขานุการ ระหว่างฝ่ายไทยและกัมพูชาที่ จ.จันทบุรี

'นักข่าวเทวดา' ซัดทหารไทยเมาสงคราม สื่อ-กองเชียร์สิ้นคิดทำลายรูปปั้นเทพเจ้าฮินดู จี้รัฐบาลขอโทษอินเดียด่วน

นายประวิตร โรจนพฤกษ์ นักเคลื่อนไหว และผู้สื่อข่าวประจำข่าวสดภาคภาษาอังกฤษ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า นี่ก็อาการเมาสงคราม! ถามจริง ตอนนี้เมาจนสังคมขาดสติ ไม่รู้ว่าทำอะไรไปบ้าง และสร้างความรู้สึกยี้ให้กับต่างชาติมากขึ้นเรื่อยๆ?

อินเดียดราม่า! ออกโรงตำหนิไทยรื้อถอนรูปปั้นเทพเจ้าฮินดูในพื้นที่พิพาท ทำร้ายจิตใจผู้ศรัทธาทั่วโลก

เพจ Army Military Force โพสต์ข้อความว่า อินเดียแถลงตำหนิไทย กรณีรื้อถอนรูปปั้นเทพเจ้าในพื้นที่พิพาท ชี้กระทบความรู้สึกผู้ศรัทธาทั่วโลก