สหรัฐเลิกบังคับสวมหน้ากากบนขนส่งฯ

รัฐบาลสหรัฐเลิกบังคับคำสั่งให้สวมหน้ากากเมื่อใช้บริการขนส่งสาธารณะ หลังจากผู้พิพากษารัฐบาลกลางในรัฐฟลอริดาตัดสินเมื่อวันจันทร์ว่า คำสั่งดังกล่าวที่บังคับใช้มา 14 เดือน ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
รอยเตอร์รายงานเมื่อวันอังคารที่ 19 เมษายน 2565 ว่า ผู้พิพากษารัฐบาลกลางในรัฐฟลอริดาตัดสินเมื่อวันจันทร์ว่า คำสั่งดังกล่าวเป็นการใช้อำนาจเกินขอบเขตของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ (ซีดีซี)
          แม้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เจ้าหน้าที่สาธารณสุขสหรัฐเพิ่งขยายเวลาบังคับให้สวมหน้ากากสำหรับผู้โดยสารบนเครื่องบิน, รถไฟ, รถแท็กซี่และในสถานีขนส่ง ออกไปถึงวันที่ 3 พฤษภาคม ระบุว่า เพื่อเผื่อเวลามากขึ้นในการประเมินผลกระทบของผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ขณะนี้เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะกับการติดเชื้อจากทางอากาศ
          กลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ และ ส.ส.พรรครีพับริกันต่างคัดค้านและต้องการให้รัฐบาลสหรัฐยุติข้อบังคับให้สวมหน้ากากที่ใช้มาแล้ว 14 เดือนอย่างถาวร
          แคทรีน คิมบอลล์ มิเซลล์ ผู้พิพากษารัฐบาลกลางที่ได้รับการแต่งตั้งในสมัยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีคำตัดสินในคดีนี้เมื่อวันจันทร์ หลังจากเมื่อปีที่แล้ว กลุ่มที่ชื่อว่า “เฮลธฟรีดอมดีเฟนซ์ฟันด์” ยื่นฟ้องคดีนี้ต่อศาลในเมืองแทมปาของรัฐฟลอริดา
          ก่อนหน้านี้ศาลสหรัฐตัดสินคัดค้านคำสั่งของรัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่ใช้ในการต่อสู้กับการระบาดของโควิด-19 มาแล้วหลายคำสั่ง เช่น การบังคับให้พนักงานบริษัทฉีดวัคซีนโควิด-19 หรือตรวจหาเชื้อ
          ผู้พิพากษามิเซลล์ระบุในคำตัดสินคดีว่า การที่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ (ซีดีซี) บังคับให้ประชาชนสวมหน้ากากเมื่อใช้บริการขนส่งสาธารณะ เป็นการใช้อำนาจหน้าที่เกินขอบเขตของเจ้าหน้าที่, ไม่มีการสอบถามความคิดเห็นเรื่องนี้ต่อสาธารณะ และไม่ได้อธิบายถึงเหตุผลที่บังคับใช้คำสั่งนี้อย่างเพียงพอ
          เจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐแถลงหลังคำตัดสินในคดีนี้ของศาลว่า ระหว่างที่หน่วยงานต่างๆ ของรัฐบาลกำลังประเมินถึงความเป็นไปได้ที่จะดำเนินการขั้นต่อไป คำตัดสินของศาลครั้งนี้ทำให้คำสั่งบังคับให้ผู้โดยสารที่ใช้บริการขนส่งสาธารณะต้องสวมหน้ากาก จึงบังคับใช้ไม่ได้อีกต่อไป รัฐบาลอาจยื่นอุทธรณ์ต่อคำสั่งนี้ของศาลหรือให้มีการระงับฉุกเฉินคำสั่งนี้
          หลังการตัดสินของศาลในคดีนี้ที่รัฐฟลอริดา สายการบินหลักทั้งหมดของสหรัฐ รวมถึงอเมริกันแอร์ไลน์, ยูไนเต็ดแอร์ไลน์และเดลตาแอร์ไลน์ และแอ็มแทร็ก บริษัทรถไฟรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐ ประกาศผ่อนคลายข้อบังคับสวมหน้ากากเมื่อใช้บริการเครื่องบินและรถไฟโดยมีผลในทันที.