พ่อแม่ชาวเซี่ยงไฮ้ กลัวพลัดพรากจากลูก หากผลตรวจโควิดเป็นบวก

พลเมืองกว่า 25 ล้านคนในนครแห่งการเงินของจีนแห่งนี้ ต่างเก็บตัวอยู่ในบ้านอย่างจริงจัง เนื่องจากครอบครัวที่มีลูกเด็กเล็กแดง กลัวที่จะถูกพรากจากกันหากโชคร้ายติดโควิดขึ้นมา

เด็กชายคนหนึ่งวิ่งเล่นอยู่ในลานของอพาร์ตเมนต์เล็กๆ ระหว่างช่วงที่สองของการล็อกดาวน์ ในเขตจิ้งอันของนครเซี่ยงไฮ้ เมื่อวันที่ 2 เมษายน (Photo by Hector RETAMAL / AFP)

เอเอฟพีรายงานสถานการณ์ล็อกดาวน์ในนครเซี่ยงไฮ้เมื่อวันที่ 2 เมษายน กล่าวว่า เซี่ยงไฮ้ ซึ่งปัจจุบันเป็นศูนย์กลางการระบาดโควิดของจีน ต้องเผชิญกับการล็อกดาวน์เมืองมากว่าสัปดาห์แล้ว จากนโยบายรักษาสมดุลระหว่างการควบคุมโรคระบาดกับความอยู่รอดทางเศรษฐกิจ แต่ผลที่ได้คือความล้มเหลวอย่างแท้จริง

ยอดผู้ติดเชื้อใหม่ในเซี่ยงไฮ้เพิ่มมากถึง 6,300 รายในวันเสาร์ ซึ่งมากกว่าสองในสามของยอดผู้ติดเชื้อรวมทั่วประเทศ แม้จะเป็นยอดที่ไม่น่าตกใจเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ แต่กลับสร้างความวิตกอย่างมากให้กับประเทศแห่งนี้ที่เคยมียอดติดเชื้อแค่ตัวเลขสองหลักต่อวันตลอดช่วง 2 ปีที่ผ่านมา

สื่อของจีนรายงานว่า ประชาชนกว่า 14 ล้านคนในเซี่ยงไฮ้ได้รับการตรวจหาเชื้อแล้วเมื่อวันศุกร์ แต่ระบบการตรวจหาเชื้อนี่เอง ที่ทำให้เกิดความวิตกกังวลในบรรดาผู้ปกครองเนื่องจากกลัวว่าจะต้องถูกพรากจากลูกๆ ซึ่งตามหลักปฏิบัติในกรณีที่ตรวจพบเชื้อเป็นบวก บุคคลผู้นั้นจะต้องถูกแยกออกจากครอบครัวที่อยู่ด้วย เพื่อไปกักตัวรับการรักษาในสถานพยาบาลของรัฐ ซึ่งปัญหาจะตกอยู่กับครอบครัวที่มีเด็กๆ ที่บรรดาพ่อแม่อาจต้องพรากจากลูกเพื่อแยกไปรักษาตัว ยิ่งครอบครัวที่มีลูกเล็กๆแล้ว ยิ่งน่ากังวลที่เด็กเล็กจะต้องอยู่ด้วยตัวเองกับผู้ปกครองชั่วคราว หรือถูกส่งไปอยู่สถานเลี้ยงเด็ก เพื่อรอพ่อแม่รักษาตัวจนหายถึงจะกลับมาอยู่ร่วมกันได้อีกครั้ง

ด้วยเหตุที่ยอดผู้ติดเชื้อไม่มีทีท่าจะลดลง การล็อกดาวน์เซี่ยงไฮ้จากที่เคยกำหนดไว้แค่ 9 วัน อาจถูกขยายเพิ่มเติมไปเป็นอย่างน้อยสองสัปดาห์ นโยบายสลับกันล็อกดาวน์ทีละฝั่งของเมืองเริ่มจากฝั่งตะวันออกในเขตผู่ตงที่มีกำหนดจะคลายล็อกก่อนสลับไปฝั่งตะวันตกในวันที่ 1 เมษายน ได้ถูกขยายออกไปเพราะยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นทุกวัน จึงยังจำเป็นต้องกักผู้คนฝั่งนี้ไว้ในบ้านต่อไป ขณะที่ฝั่งตะวันตกในเขตผู่ซี ยังคงนโยบายเดิม คือเข้าสู่การล็อกดาวน์เรียบร้อยแล้ว ไปจนถึงวันที่  5 เมษายนเป็นอย่างน้อยขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ทำให้ตอนนี้ถือว่าเซี่ยงไฮ้ได้ถูกล็อกดาวน์ทั้งเมืองแล้ว และปัญหาที่กำลังก่อตัวขึ้นคือการขาดแคลนอาหารสด เพราะการขนส่งถูกปิดกั้นนานขึ้นจากการขยายเวลาล็อกดาวน์ ยิ่งทำให้ผู้คนที่ต้องอยู่แต่ในบ้านเริ่มเกิดความเครียดสะสม จนกลายเป็นความโกรธและหวาดกลัวจากสถานการณ์ที่ไม่รู้จะจบลงเมื่อไหร่ และรัฐบาลจีนเองก็ไม่สามารถให้คำตอบได้เช่นกัน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'บิ๊กต่อ' สั่งนครบาลสอบด่วน! ป้ายซื้อขายพาสปอร์ต ผิดจริงฟันแน่

'ผบ.ตร.' สั่งตรวจสอบที่มาของป้ายโฆษณาภาษาจีน รับทำหนังสือเดินทาง-ขอสัญชาติต่างๆ กำชับ สตม. ตรวจสอบ คัดกรองคนต่างด้าว เจอกระทำผิดฟันตามกฎหมายทุกมิติ

กรมอุตุฯ ประกาศฉบับ 5 อัปเดตเส้นทางพายุโซนร้อน 'พระพิรุณ'

นางสาวกรรวี สิทธิชีวภาค อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง พายุ “พระพิรุณ” ฉบับที่ 5 (145/2567) โดยมีใจความว่า

กรมอุตุฯ ประกาศฉ.4 พายุพระพิรุณขึ้นฝั่งจีนตอนใต้ 21-23 ก.ค. ไม่ส่งผลกระทบไทย

พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือด้วยความเร็วประมาณ 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะเคลื่อนผ่านเกาะไหหลำ

จับตายกเลิกแบนบุหรี่ไฟฟ้า กังขาสภายกโขยงสัมพันธ์บริษัทจีน

นักวิชาการกังขา สภาฯ ดูงานบุหรี่ไฟฟ้าจีน ประชุมร่วมกับหน่วยงานที่มีความสัมพันธ์กับบริษัทบุหรี่ เรียกร้องสังคมจับตา กมธ.เอาข้อมูลบริษัทบุหรี่มาอ้างยกเลิกแบนบุหรี่ไฟฟ้า

'ตำรวจไซเบอร์' เปิดปฏิบัติการ! ทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์จีน ตั้งฐานเชียงใหม่

พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตํารวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.), พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รอง ผบช.สอท.