กองกำลังยูเครนกำลังเตรียมพร้อมสำหรับการโจมตีใหม่ของรัสเซียหลังอ้างว่าเป็นฝ่ายขับไล่กองทหารรัสเซียออกจากเคียฟ และเชอร์นิฮิฟ พร้อมเรียกร้องให้คว่ำบาตรรัสเซียมากขึ้น ขณะที่นานาชาติเร่งให้ความช่วยเหลือพลเรือนที่ยังติดอยู่ในซากเมืองมาริอูโปล
ทหารยูเครนลาดตระเวนข้างบ้านเรือนที่ถูกไฟไหม้ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งใกล้กรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน เมื่อวันที่ 30 มีนาคม (Photo by RONALDO SCHEMIDT / AFP)
เอเอฟพีและรอยเตอร์รายงานความเคลื่อนไหวของสงครามในยูเครนเมื่อวันพฤหัสบดี กล่าวว่า การสู้ไม่ถอยของกองกำลังยูเครนทำให้รัสเซียยังไม่สามารถยึดเมืองใหญ่ใดๆ ได้ รวมทั้งเมืองหลวงอย่างเคียฟ ซึ่งโดนโจมตีอย่างหนักจากทางตะวันออกและตะวันตกเฉียงเหนือ ขณะที่อีกด้าน รัสเซียก็มุ่งเน้นไปที่ "การปลดปล่อยโดเนสต์และลูฮันสก์" ในแคว้นดอนบาสของยูเครน ให้เป็นรัฐอิสระ
ความคืบหน้าล่าสุด ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ได้ปราศรัยผ่านวิดีโอ โดยกล่าวว่า กองทหารรัสเซียถูกกองกำลังของเขาผลักดันจนล่าถอยห่างจากกรุงเคียฟ และเมืองเชอร์นิฮิฟ ทางตอนเหนือ ไม่ใช่การถอนกำลังเองของรัสเซีย และยูเครนกำลังจับตาการรวมตัวกันของกองกำลังรัสเซียสำหรับการโจมตีครั้งใหม่ในแคว้นดอนบาส พร้อมกันนั้นยังได้เรียกร้องไปยังนานาชาติให้คว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มมากขึ้น เพื่อเป็นการลงโทษและเป็นตัวอย่างไม่ให้ประเทศอื่นๆทำตาม โดยร้องขอเป็นพิเศษจากออสเตรเลียและเนเธอร์แลนด์ให้ “หยุดการค้ากับรัสเซียทั้งหมด”
ด้านเมืองท่ามาริอูโปล ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นเมืองที่มีประชากร 4 แสนคน ได้รับความเสียหายอย่างหนักในระยะเวลาสี่สัปดาห์ของการทิ้งระเบิดและการปิดล้อมอย่างต่อเนื่องของรัสเซีย องค์การสหประชาชาติเชื่อว่า นอกจากจะมีผู้เสียชีวิตหลายพันคนจากการโจมตีแล้ว ยังมีพลเรือนอีกจำนวนหนึ่งติดอยู่ในเมืองรอการช่วยเหลือและเคลื่อนย้าย ซึ่งกาชาดสากลได้บรรลุข้อตกลงกับรัสเซียให้ส่งขบวนบรรเทาทุกข์เพื่อช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม เป้าหมายคือพลเรือนที่ยังหลบซ่อนอยู่ภายในเมืองที่ขาดแคลนทั้งน้ำและอาหาร ขณะที่รัสเซียเองเริ่มแสดงท่าทีอ่อนลงเพื่อเปิดรับการเจรจาสันติภาพ จากการการทยอยลดกำลังทหารออกจากเคียฟ, เชอร์นิฮิฟ และเชอร์โนบิล นัยว่าเพื่อสร้างความน่าไว้วางใจ ที่หลายๆฝ่ายยังคงระแวงและเคลือบแคลงอยู่.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'อังคณา' จี้นายกฯ ตอบปม สตม.ส่งนักการเมืองฝ่ายค้านกัมพูชากลับประเทศ
นางอังคณา นีละไพจิตร สมาชิกวุฒิสภา (สว.)