สหรัฐฟันธงแล้ว เมียนมา 'ล้างเผ่าพันธุ์' โรฮีนจา

รัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน เตรียมประกาศอย่างเป็นทางการว่า ความรุนแรงที่กองทัพเมียนมากระทำต่อชนกลุ่มน้อยชาวโรฮีนจาถือเป็นการ "ล้างเผ่าพันธุ์" คาดจะนำไปสู่การคว่ำบาตรและตัดความช่วยเหลือเพิ่มเติม

แฟ้มภาพ เมื่อวันที่ 16 ต.ค. 2560 ผู้ลี้ภัยชาวโรฮีนจาจากรัฐยะไข่เดินข้ามลำน้ำตื้นๆ ในเมืองปาลองคาลี หลังจากข้ามแม่น้ำนาฟเข้าบังกลาเทศ (Photo by Munir UZ ZAMAN / AFP)

เอเอฟพีรายงานเมื่อวันจันทร์ที่ 21 มีนาคม 2565 อ้างเจ้าหน้าที่ในรัฐบาลสหรัฐว่า แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐ เตรียมจะประกาศอย่างเป็นทางการว่า รัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ตัดสินใจจะเรียกการปราบปรามชนกลุ่มน้อยชาวโรฮีนจาในเมียนมาว่าเป็นการล้างเผ่าพันธุ์อย่างเป็นทางการ ระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ที่พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ในกรุงวอชิงตันวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น

การปราบปรามของกองทัพเมียนมาในรัฐยะไข่ทางภาคตะวันตกของประเทศเมื่อปี 2560 ส่งผลให้ชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมโรฮีนจาไม่ต่ำกว่า 730,000 คน อพยพหนีข้ามชายแดนเข้าบังกลาเทศ พร้อมกับคำบอกเล่าเกี่ยวกับการเข่นฆ่า, ข่มขืนหมู่ และวางเพลิงชุมชนชาวโรฮีนจา ปัจจุบันมีชาวโรฮีนจาอาศัยอยู่ในค่ายผู้ลี้ภัยที่บังกลาเทศราว 850,000 คน ส่วนที่รัฐยะไข่ ยังหลงเหลือชาวโรฮีนจาอีกราว 600,000 คน ที่รายงานเผชิญการกดขี่อย่างกว้างขวาง

ชาวโรฮีนจารายหนึ่งในค่ายพักพิงสำหรับผู้ไร้ถิ่นฐานใกล้เมืองซิตตเว เมืองเอกของรัฐยะไข่ กล่าวว่า เรื่องนี้ควรทำตั้งแต่ก่อนหน้านี้ แต่ตนก็เชื่อว่าการตัดสินใจของสหรัฐจะเอื้อกระบวนการพิจารณาคดีสำหรับชาวโรฮีนจาในศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ไอซีเจ)

บลิงเคนเคยกล่าวไว้ระหว่างเดินทางเยือนมาเลเซียเมื่อเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมาว่า รัฐบาลสหรัฐกำลังพิจารณาอย่างแข็งขันว่าการปฏิบัติต่อชาวโรฮีนจาถือเป็นการล้างเผ่าพันธุ์หรือไม่

กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐเคยเผยแพร่รายงานฉบับหนึ่งเมื่อปี 2561 ให้รายละเอียดเกี่ยวกับความรุนแรงต่อชาวโรฮีนจาในรัฐยะไข่ว่า มีความรุนแรง, ขนาดใหญ่, กว้างขวาง และดูเหมือนว่ามีเป้าหมายเพื่่อสร้างความหวาดกลัวต่อประชากรชาวโรฮีนจาและขับไล่พวกเขาออกไป

นิวยอร์กไทมส์กล่าวว่า การกำหนดการล้างเผ่าพันธุ์ตามกฎหมาย ซึ่งตามคำนิยามขององค์การสหประชาชาติ หมายถึง การกระทำที่ตั้งใจกระทำเพื่อทำลายกลุ่มชาติ, ชาติพันธุ์, เชื้อชาติ หรือศาสนา ทั้งหมดหรือบางส่วน อาจนำไปสู่ลงโทษรัฐบาลทหารเมียนมาเพิ่มขึ้น เช่น การคว่ำบาตรและการจำกัดความช่วยเหลือเพิ่มเติม

สหรัฐใช้มาตรการคว่ำบาตรพวกผู้นำทหารเมียนมาแล้วหลายประการ สืบเนื่องจากข้อกล่าวหาก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติจากการกระทำทารุณโหดร้ายต่อชาวโรฮีนจา และยังจำกัดด้านอาวุธเช่นเดียวกับอีกหลายชาติในโลกตะวันตก มาตั้งแต่ก่อนหน้าการก่อรัฐประหาร

การพิจารณาคดีในไอซีเจหรือศาลโลกตามคำฟ้องของรัฐบาลแกมเบียเมื่อปี 2562 เผชิญปัญหายุ่งยากสืบเนื่องจากการก่อรัฐประหารยึดอำนาจรัฐบาลพลเรือนของนางอองซาน ซูจี เมื่อปีที่แล้ว ปัจจุบันนางซูจี ซึ่งเคยรับหน้าที่แก้ต่างให้พวกนายพลในศาลแห่งนี้ กำลังถูกกักบริเวณในบ้านพักและกำลังถูกดำเนินคดีด้วยข้อกล่าวหามากมาย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ภูมิธรรม' เผย 4 ลูกเรือประมงไทยได้กลับบ้าน 4 ม.ค.68 ยันกองทัพไม่ได้อ่อนแอ

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงความคืบหน้าการช่วยลูกเรือประมงไทยทั้ง 4 คนที่ถูกดำเนินคดีและตัดสินโทษจำคุกในข้อหารุกล้ำน่านน้ำเมียนมา ว่า การล่วงล้ำชายแดนไม่ว่าจะเป็นทางบกหรือทางทะเล

'มาริษ' เผย 6 ชาติประชุมแก้ปัญหาเมียนมากับเพื่อนบ้าน เป็นไปด้วยดี

นายมาริษ เสงี่ยมพงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แถลงถึงการประชุมอย่างไม่เป็นทางการระหว่างประเทศเมียนมาและประเทศเพื่อนบ้าน 6 ประเทศ (สปป.ลาว จีน อินเดีย บังกลาเทศ เมียนมา และไทย)

'โรม' จี้รัฐบาลตอบให้ชัด เมียนมาจะปล่อยตัว 4 ลูกเรือประมงไทย หลังปีใหม่คือเมื่อไหร่

นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีศาลเมียนมาสั่งจำคุก 4 ลูกเรือประมงชาวไทย