
27 เม.ย.2565 - นายสมชัย ศรีสุทธิยากร สมาชิกพรรคเสรีรวมไทย เปิดเผยว่า วันศุกร์ที่ 29 เม.ย. เวลา 10.30 น. จะเดินทางไปยื่นหนังสือถึงประธานกกต. เพื่อขอสอบถามข้อเท็จจริงว่าการประชุม กกต.ที่ลงมติแจกใบส้ม นายสุรพล เกียรติไชยากร อดีต ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย มี กกต. 1 คนขาดการประชุมจริงหรือไม่ ด้วยเหตุผลใด และเป็นเหตุผลอันควรหรือไม่ โดยการสอบถามดังกล่าวประสงค์ต้องการให้ทาง กกต.ตอบข้อเท็จจริง ซึ่งจะตอบหรือไม่ตอบ ตนจะใช้เป็นเอกสารในการยื่นร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ประเด็นการปฏิบัติงานที่ผิดมาตรฐานทางจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ ทั้งนี้หาก กกต.ตอบและเห็นว่ามีเหตุผลสำคัญ อาจจะไม่ยื่น ป.ป.ช. แต่ถ้าตอบแล้วเป็นเหตุผลที่ไม่สำคัญและไม่สมควร จะดำเนินการยื่นป.ป.ช. ตรวจสอบต่อไป และถ้าไม่ตอบเลยเท่ากับว่าแสดงถึงการละเลยของ กกต.ทั้งชุด
นายสมชัย ตั้งข้อสังเกตว่า ปรากฏตามรายงานการประชุม ว่ามีกรรมการมาประชุมคือจำเลยที่ 2 ถึงจำเลยที่ 7 และนายฐิติเชษฐ์ นุชนาฏ กกต. แต่นายฐิติเชษฐ์ ลาประชุมในวาระที่ 5.1 ถึงวาระที่ 5.4 โดยวาระที่ 5.4 คือวาระการพิจารณาสำนวนของนายสุรพล เกียรติไชยากร แต่จากเอกสารรายงานการประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้ง ครั้งที่ 49/2565 วันอังคารที่ 23 เม.ย.พ.ศ. 2562 ปรากฏรายชื่อกรรมการผู้มาประชุมครบทั้ง 7 คน ซึ่งตามมาตรา 18 วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ. 2560 ระบุว่าการไม่เข้าประชุมหรือไม่อยู่ในที่ประชุมตามวรรคสองโดยไม่มีเหตุอันสมควร ให้ถือว่าเป็นการจงใจฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรม
ประกอบกับมาตรา 19 (1) ที่ระบุถึงการลงมติในเรื่องสำคัญ คือการวินิจฉัยว่าการเลือกตั้งใดมิได้เป็นไปด้วยความสุจริตหรือเที่ยงธรรม หรือเป็นไปโดยมิชอบด้วยกฎหมาย กำหนดให้กรรมการการเลือกตั้งทุกคนที่อยู่ในที่ประชุมต้องลงมติ การงดออกเสียงหรือการออกเสียงที่แตกต่างไปจากประเด็นที่จะต้องลงมติจะกระทำมิได้ แต่ไม่เป็นการตัดสิทธิที่จะลาออกจากตำแหน่งก่อนมีการลงมติ เป็นการชี้ให้เห็นว่า การลงมติในวาระ 5.4 ดังกล่าว เป็นเรื่องที่มีความสำคัญที่กรรมการการเลือกตั้งสมควรอยู่ในที่ประชุม ไม่สมควรขาดการประชุมโดยไม่มีเหตุอันสมควร
นายสมชัย กล่าวด้วยว่าในวันเดียวกันนั้น จะยื่นเรื่องขอให้ กกต.ดำเนินการตรวจสอบนายเสกสกล อัตถาวงศ์ อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี เนื่องจากเห็นว่าคลิปเสียงบทสนทนาที่หลุดออกมา มีประเด็นสุ่มเสี่ยงกระทำผิดกฎหมายการเลือกตั้ง 3 เรื่อง คือ 1.การใช้จ่ายเงินเกินกว่ากรอบที่กฎหมายกำหนด 2.อาจจะมีการกระทำผิดพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. มาตรา 73 (1) และ 3. การแจ้งค่าใช้จ่ายเป็นเท็จ จึงอยากให้ กกต.ตั้งคณะทำงานขึ้นมาไต่สวนข้อเท็จจริงในเรื่องที่เกิดขึ้น แม้ว่านายเสกสกล จะไม่ได้รับเลือกตั้ง แต่ว่าการกระทำผิดดังกล่าว กกต.ต้องดำเนินการไม่ว่าผู้สมัครคนดังกล่าวจะได้รับเลือกตั้งหรือไม่ก็ตาม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ให้ซักฟอก 1 วัน พูดชื่อ ‘แม้ว’ ได้ เป็นพ่อนายกฯ
เพื่อไทยยันซักฟอกวันเดียวพอ เพราะอภิปรายนายกฯ คนเดียว "วิสุทธิ์" แนะใส่ให้เต็มที่ไม่ต้องขี่ม้าเลียบค่าย ไม่ถึงขั้นห้ามเอ่ยชื่อ "ทักษิณ" ถ้าบอกว่าเป็นพ่อของนายกฯ ไม่เป็นไร
อ่านเกมสีแดง วางหมาก ทุบ สว.-สลายขั้วน้ำเงิน
ต้องติดตามกันว่าการประชุม "คณะกรรมการคดีพิเศษ" หรือที่เรียกกันว่าบอร์ดดีเอสไอ ในวันพฤหัสบดีที่ 6 มี.ค.นี้ สุดท้ายที่ประชุมจะลงมติรับเรื่อง "การสอบสวนการเลือกสมาชิกวุฒิสภาปี 2567" เป็นคดีพิเศษ เพื่อให้ดีเอสไอ สอบสวนการเลือก สว.หรือไม่
กกต.ไฟเขียว ‘พรรคอนาคตไกล’ ลำดับที่ 77 เดินหน้าสู่สนามการเมือง
‘แสวง บุญมี’ เลขาธิการ กกต.ลงนามให้ประกาศจัดตั้งพรรคอนาคตไกล(อนก.) ในสารบบพรรคการเมือง ลำดับที่ 77 และส่งหนังสือลงในราชกิจจานุเบกษาแล้ว
อัปยศ! ตัดเวทีซักฟอก 'แพทองธาร' ให้ฝ่ายค้านแค่วันเดียว ก่อนโหวตด่วนเที่ยงคืน
ฝ่ายค้านช็อก! เพื่อไทยสุดอัปยศ ล็อกเวลาซักฟอกนายกฯ 'แพทองธาร' แค่ 24 ชั่วโมง จบเที่ยงคืนโหวตทันที อ้างอภิปรายนายกฯ คนเดียว ไม่จำเป็นต้องใช้ 5 วัน ประธานวิปรัฐบาล ผีเจาะปากบอก 'ถ้าฝ่ายค้านอยากได้ 4-5 วัน ก็รอเป็นรัฐบาลเองก่อน'
‘วรงค์’ ชี้เปรี้ยงซักฟอกขึงพืด ‘อิ๊งค์-ทักษิณ‘ งานนี้มีได้มีเสีย!
นพ.วรงค์ ระบุญัตติฝ่ายค้านที่มุ่งเน้นการอภิปรายไม่ไว้วางใจ “อุ๊งอิ๊ง” พร้อมเปิดประเด็นการเชื่อมโยงกับ “ทักษิณ” ชี้ช่องทางในการเปิดหลักฐานเด็ดที่อาจพลิกเกมการเมือง
'นิพิฏฐ์' เตือน! ประเทศไทยกำลังตกอยู่ในระบบที่ทำลายตัวเอง
อดีต สส.พัทลุง เผยความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองและการทำงานของระบบราชการ หลังพบการกัดกร่อนในหลายๆ ด้าน อาทิ กรณีการปฏิบัติต่อ ทักษิณ ชินวัตร, การได้มาของสมาชิกวุฒิสภา, และปัญหาที่ดินในหลายพื้นที่