จับตาราคาน้ำมันแพงยาวเกิน 6 เดือน ฉุดจีดีพีไทยหลุด 3%

ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS แบงก์กรุงไทย หวั่นสงครามรัสเซีย-ยูเครนยืดเยื้อนาน 6 เดือน ฉุดจีดีพีไทยมีโอกาสหลุด 3%

10 มี.ค. 2565 – นายพชรพจน์ นันทรามาศ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB เปิดเผยว่า สถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครนในขณะนี้ ได้ส่งผลกระทบต่อประเทศไทยพอสมควร มองว่า หากสถานการณ์ยืดเยื้อหนุนให้ราคาน้ำมันเพิ่มสูงเกิน 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลต่อเนื่องตลอดช่วงเดือน มี.ค. 2565 เพียงแค่ 1 เดือน แม้มีผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ไทย แต่ตัวเลขการเติบโตก็ยังมีโอกาสใกล้เคียงกับมุมมองที่ 3.8%

แต่หากสถานการณ์ยืดเยื้อ หนุนราคาน้ำมันเพิ่มสูงต่อเนื่องไปจนถึงเดือน มิ.ย.-ก.ค. โอกาสที่จีดีพีปรับลงมาอยู่ที่ระดับ 3% บวกลบ แต่ถ้ายาวนานถึง 6 เดือนหลังจากนี้ จีดีพีมีโอกาสหลุดระดับ 3% ได้ค่อนข้างสูง ดังนั้น ต้องรอดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

จากผลกระทบข้างต้น ส่งผลให้มีผู้ประกอบการบางรรายที่มีต้นทุนทางการผลิตสูงได้หยุดการผลิตไปบ้างแล้ว เพื่อรอดูสถานการณ์ต่อไป และเชื่อว่าหากยังยืดเยื้อยาวนานและส่งผลต่อต้นทุนการผลิตของผู้ผลิตของไทยให้สูงขึ้นกว่าเดิม หากผู้ผลิตรายใดที่มีมาร์จิ้นต่ำ โอกาสที่จะหยุดการผลิตก็มีโอกาสเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เศรษฐกิจจีน ส่งผลดึงมูลค่าส่งออกเดือนมิถุนายนหดตัวในรอบ 3 เดือน

มูลค่าส่งออกเดือน มิ.ย. อยู่ที่ 24,796.6 ล้านดอลลาร์ฯ หดตัวเล็กน้อย 0.3%YoY กลับมาติดลบอีกครั้งในรอบ 3 เดือน จากการส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรที่หดตัว ส่วนหนึ่งเป็นผลสืบเนื่องจากการส่งออกที่เร่งตัวเมื่อเดือน พ.ค.