ดูดด้วยผลงาน

สำหรับพรรคภูมิใจไทย (ภท.) จากพรรคอันดับ 5 หลังการเลือกตั้งปี 2562 ด้วยจำนวน ส.ส.51 เก้าอี้ แต่บัดนี้เวลาผ่านไป 3 ปีครึ่ง และเหลือเวลาไม่ถึง 180 วันก่อนครบวาระรัฐสภา 23 มี.ค.2566 ปรากฏว่าพรรคเลือดน้ำเงินมี ส.ส.ในนามพรรค และร่วมอุดมการณ์พรรคเพิ่มขึ้น ไม่น้อยกว่า 80 ส.ส.ที่ช่วยค้ำบัลลังก์รัฐบาล    

กระทั่งมีการแซวในสังคมการเมืองเป็น "พรรคภูมิใจดูด" มีสถานะที่ดี มีเอกภาพ และแตกต่างจากพรรคร่วมรัฐบาลอื่นๆ ที่มีแต่ปัญหาภายใน จนมีแต่ ส.ส.ไหลออกอย่างไม่ขาดสาย    

ล่าสุดหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยอย่าง "เสี่ยหนู"-นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข กล่าวถึงฉายาภายหลังเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.ขอนแก่น 8 คน จาก 11 เขต ที่จังหวัดขอนแก่น เมื่อวันที่ 23 ก.ย.ที่ผ่านมา พร้อมตั้งเป้าหมายเลือกตั้งครั้งหน้าเอาไว้ว่า จะยกสถานะจาก "ตัวแปร" เป็น "ต้นขั้วการเมือง" หรือพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล   

"พรรคภูมิใจไทยมีแต่คนไหลเข้า ส่วนไหลออกยังไม่เห็น เวลามันมีพลวัตขับเคลื่อนเราเปรียบเสมือนสิ่งที่หมุนรอบ ซึ่งหากหมุนไปเรื่อยๆ ในทางฟิสิกส์จะเกิดเป็นแรงดูด จึงขอให้หมุนไปแบบนี้ หมุนด้วยความเร่ง ความตั้งใจ ความจริงใจต่อประชาชน แรงดูดจะยิ่งเพิ่มมากขึ้น   

ดังนั้นจึงถูกแล้วที่เขาพูดว่าพรรคภูมิใจไทยเป็นพรรคดูด แต่ ‘ดูดด้วยผลงาน ดูดด้วยความนิยม’ อย่างเช่นนโยบายที่กล้าทำ กล้าสัญญา และมีแนวโน้มจะสำเร็จ เช่น กัญชาเสรีเพื่อการแพทย์ และปลดหนี้ กยศ.ไม่คิดดอกเบี้ย และไม่มีผู้ค้ำประกัน ฯลฯ”

"เสี่ยหนู" ยังกล่าวต่อไปอีกว่า นับจากวันนี้คนภูมิใจไทย หน้าต้องดำ ผิวต้องกร้าน และต้องได้รับคะแนนนิยม ความเชื่อมั่นจากประชาชน แล้ววันรุ่งขึ้นหลังการเลือกตั้งเราจะฉลองอย่างยิ่งใหญ่ 

"หัวหน้าพรรคจะยืนเคียงข้างลูกพรรค เราตากแดด ตากลม ตากฝน ได้หมด ขออย่างเดียวให้ได้เดินเข้าสภา" หัวหน้าอนุทินประกาศไว้ 

ทั้งหมดนี้คือนิยามของพรรคพลังดูด... แต่ดูดด้วยผลงาน หาใช่ดูดด้วยอย่างอื่น ...(อิอิ).  

 

ช่างสงสัย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“ผลประโยชน์เหนือสัจจะ”

พรรคเพื่อไทยตระบัดสัตย์อีกครั้ง ด้วยการจับมือกับพรรคประชาธิปัตย์ที่พวกเขาเคยประณามว่าเป็นพรรคมือเปื้อนเลือด จากเหตุการณ์สลายการชุมนุม นปช. ปี 53 ที่ระบุว่ามีผู้เสียชีวิต 92 ราย บาดเจ็บกว่า 1,500 รายในช่วง 69 วัน

ไม่กล้าโกหกกลัว 'จริยธรรม'

แทบเป็นเงาข้างตัวของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ และเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ สำหรับ เสี่ยเบนซ์-อรรถกร ศิริลัทธยากร รมช.เกษตรและสหกรณ์

พูดไม่เก่ง ทำงาน(ไม่)เก่ง

“ครม.อุ๊งอิ๊ง1” มากกว่าการจัดโผ ก็ตรงได้เห็นพฤติกรรมของนักการเมืองแต่ละคนนี่แหละ ชัดเจนที่สุด โดยเฉพาะคนที่อยากมีเก้าอี้เสนาบดีที่ไม่เข้าใครออกใคร เพราะมีทั้งอำนาจเต็มมือ และผลประโยชน์เต็มกระเป๋า

'ส่งกำลังใจเน้อ'

สถานการณ์น้ำท่วมที่ภาคเหนือตอนนี้เริ่มดีขี้น แต่สถานการณ์ทางการเมืองยังไม่นิ่ง เพราะถึงแม้ อิ๊งค์ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะได้รับเสียงในสภาให้ดำรงตำแหน่งนายกฯ แต่เจ้าตัวก็ยังไม่สามารถสั่งการได้ เพราะขั้นตอนยังไม่เสร็จสิ้น

ฟิตพร้อมลุย

ในช่วงที่รอกระบวนการจัดตั้งรัฐบาล “แพทองธาร 1” ที่ยังไม่เสร็จสิ้น ช่วงนี้ “นายกฯอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี คนที่ 31 ของประเทศไทย ซึ่งยังไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีได้ จึงยังไม่ได้เข้าประจำการทำเนียบรัฐบาล

ไม่ทิ้ง 'ลุงป้อม'

ไม่ต้องแปลกใจเลยว่า ทำไมโผรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐรอบแรก เมื่อวันที่ 20 ส.ค. ที่ ลุงป้อม-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคส่งไป จะมีชื่อของ เสี่ยโอ๋-ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคติดไปด้วย