เปิดตัว‘จักกพันธุ์-ภิมุข’ พท.-ก.ก.จับมือยึดสภา

"ชัชชาติ" เปิดตัว "จักกพันธุ์-ภิมุข" ร่วมทีมบริหาร กทม. เฟ้นเองกับมือ  ไร้ใครสั่ง ยันมีตำแหน่งให้ผู้หญิง-คนพิการ แน่นอน มั่นใจช่วยพัฒนา กทม.ได้ "เพื่อไทย-ก้าวไกล" ปลาน้ำเดียวกัน จูบปากประกาศทำงานด้วยกันแบบเบ็ดเสร็จยกระดับกรุงเทพฯ "น้องเหลิม" จ่อนั่งประธานสภา กทม.

 เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2565 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ว่าที่ผู้ว่าฯ กทม. พร้อม นายจักกพันธุ์ ผิวงาม อดีตรองผู้ว่าฯ กทม. และนายภิมุข สิมะโรจน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซัสโก้ จำกัด (มหาชน) ให้สัมภาษณ์ถึงการแต่งตั้งทีมผู้บริหารว่า ขณะนี้มีทีมงานเรียบร้อยแล้ว ทั้งรองผู้ว่าฯ กทม. เลขานุการผู้ว่าฯ กทม. ที่ปรึกษาผู้ว่าฯ กทม. ด้านการเมือง ทีมที่ปรึกษา ด้านวิชาการ ซึ่งตำแหน่งนี้ไม่มีเงินเดือน

นอกจากนี้ มีคนเข้ามาช่วยหลายร้อยคน ซึ่งไม่ได้คิดเรื่องตำแหน่ง ทำให้เห็นความสามารถของแต่ละคน และเลือกทีมงานด้วยมือของตัวเอง ไม่มีใครมาสั่ง ข้อดีของอิสระ เลือกได้ ซึ่งเป็นพลังในการทำงาน มั่นใจ เพราะทีมงานคัดเลือกมาอย่างดี โดยทีมงานจะมีผู้หญิงและคนพิการด้วย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ตนไม่ได้ติดตามการรับรองจาก กกต.

ส่วนการทำงานร่วมกับนายจักกพันธุ์ ผิวงาม อดีตรองผู้ว่าฯ กทม.ในสมัยพล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมืองนั้น นายจักกพันธุ์ตื่น 04.00 น.เหมือนกัน ซึ่งตนโทรศัพท์ไปหารือเรื่องกฎหมาย นายจักกพันธุ์เป็นคนใจบุญ ซื่อสัตย์สุจริต ได้รับการรับรองจากหลายๆ คน 100% ขณะเดียวกันยังเป็นเพื่อนร่วมรุ่นการอบรมหลักสูตรมหานคร 4 ด้วย

ส่วนนายภิมุข สิมะโรจน์ อดีตรองหัวหน้าพรรคกล้า เป็นนักธุรกิจที่ครบหลายมิติ การเมืองได้ บุคลิกดี เข้าใจประชาชนดี และไม่เคยทราบมาก่อนเลยว่าเป็นรองหัวหน้าพรรคกล้า เชื่อว่าจะมาลุยด้วยกันได้

เมื่อถามว่า ตี 4 คุยงานอะไร นายชัชชาติตอบว่า เรื่องงาน เรื่องกฎหมาย มีไรคุยเลย แล้วท่านก็จะหาข้อมูลให้หมดเลย ติดขัดเรื่องกฎหมายอะไรถามท่านได้ ท่านประสานได้ เป็นคนขยัน ใจบุญสุนทาน ถามพนักงาน กทม.ทุกคนที่เจอว่าใครเป็นอย่างไร เวลาไปที่ไหนก็มีแต่คนชื่นชม”

ด้านนายจักกพันธุ์กล่าวว่า ต้องรอให้กกต.ประกาศก่อน ส่วนจะตำแหน่งใดนั้น ต้องให้นายชัชชาติพิจารณา ก็พร้อมรับ ทั้งนี้ใน กทม.ที่ผ่านมาปัญหาเรื่องการเมืองค่อนข้างจะมี ตอนที่ตัดสินใจมาร่วมงานนั้น ประการแรกคือความเป็นอิสระ ถ้า กทม.ได้บริหารงานแบบมีความอิสระ มั่นใจการทำงานทุกอย่างจะก่อให้เกิดการพัฒนาขึ้นอย่างมากมาย ขณะเดียวกันได้ศึกษานายชัชชาติด้วย โดยนายชัชชาติ เป็นคนเก่งดี มีความรู้ความสามารถ จึงมั่นใจว่าสามารถช่วยพัฒนา กทม.ได้

ส่วนนายภิมุขกล่าวว่า จริงๆ ชอบงานการเมืองอยู่แล้ว ช่วงที่เว้นวรรคไปนาน เพราะเห็นบรรยากาศขัดแย้ง ชอบงานกทม. พอนายชัชชาติมาตั้งทีมทำงานกทม.แบบอิสระ ก็เห็นว่ามาช่วยได้ ก็เลยอาสาตัว โดยไม่ได้คิดเรื่องตำแหน่งอะไร แล้วแต่นายชัชชาติ

ขณะที่นายชัชชาติกล่าวอีกครั้งว่า ทุกคนมาช่วยไม่มีใครคิดเรื่องตำแหน่ง เพราะเราไม่เคยบอกเรื่องตำแหน่งกัน คนที่มาช่วยเป็นร้อยๆ เราก็จะดูว่าใครเหมาะกับงานอะไร นี่คือข้อดีของความเป็นอิสระ เพราะอิสระทำให้ทุกตำแหน่ง ผมสามารถเลือกด้วยมือตัวเองได้ โดยไม่มีใครมาสั่ง ทำให้เราสบายใจ และคนที่ทำงานกับเราก็สบายใจ

ส่วนจะมีสัดส่วนของผู้หญิงหรือไม่ นายชัชชาติยืนยันว่า มีแน่นอน ต้องดูอีกทีว่าจะอยู่ฝั่งไหน มีครบทั้งผู้หญิงและคนพิการด้วย

นายชัชชาติกล่าวถึงการวางตำแหน่งคณะบริหารด้วยว่า คณะบริหารแบ่งได้ 3 กลุ่ม คือ 1.รองผู้ว่าฯ กทม. และเลขาฯ มีจำนวน 5 คน 2.ที่ปรึกษาด้านการเมือง จำนวน 9 คน 3.ที่ปรึกษาที่ไม่ใช่การเมือง เน้นทางด้านวิชาการ มีจำนวนมากที่ยังไม่เปิดตัวในตอนเลือกตั้ง

นายชัชชาติกล่าวถึงเรื่องการย้ายศาลาว่าการ กทม. จากเสาชิงช้าไปดินแดงว่า คงไม่ได้ย้ายภายใน 1-2 เดือน เพราะมีสำนักงานงบประมาณ สำนักการเงินอยู่ ต้องมีการตั้งคณะกรรมการในการย้าย เป็นสิ่งดีที่หลายสำนักงานมีสำนักงานตั้งอยู่ทั้ง 2 จุด อาจจะใช้เวลาประมาณ 2-3 ปีเพื่อเตรียมโครงสร้างต่างๆ

ที่โรงแรมแลงคาสเตอร์ พรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลร่วมแถลงข่าวจับมือทำงานร่วมกันในสภากรุงเทพมหานคร โดยมีแกนนำของทั้งสองพรรคมาร่วมงานกันอย่างคับคั่ง ฝั่งพรรคเพื่อไทยนำโดยนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค,  นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ผอ.การเลือกตั้ง ส.ก.พรรคเพื่อไทย, นายวราวุธ ยันต์เจริญ รอง ผอ.เลือกตั้ง ส.ก.พรรคเพื่อไทย, นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ประธานภาคกทม. และว่าที่ ส.ก.ทั้ง 20 เขตของพรรคเพื่อไทย ด้านพรรคก้าวไกล นำโดยนายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรค,  นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค, นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. พรรคก้าวไกลและว่าที่ ส.ก.พรรคก้าวไกล

นายประเสริฐกล่าวว่า พรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลได้ตกลงในการทำงานร่วมกันในประเด็นดังต่อไปนี้ 1.ส.ก.จากพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลจะร่วมกันทำงานเพื่อยกระดับประสิทธิภาพ และความโปร่งใสของสภากรุงเทพฯ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อพี่น้องประชาชนชาวกรุงเทพฯ 2.หลังจากที่ กกต.ให้การรับรองผลการเลือกตั้งสมาชิกสภา กทม.ทั้งสองพรรค จะร่วมกันเห็นชอบในการลงมติเพื่อเลือกประธานสภาและรองประธานสภา เพื่อให้การทำงานมีเอกภาพ โดยการแบ่งหน้าที่ต่างๆ ต้องเป็นไปอย่างความเหมาะสม โดยคำนึงถึงสมาชิกสภากทม.ทุกคนในการทำงาน เพื่อควบคุม ตรวจสอบและดูแลการบริหารราชการ กทม.ที่มีผู้ว่าฯ กทม.เป็นผู้บริหาร

ด้านนายชัยธวัชกล่าวว่า ส.ก.จากทั้งสองพรรคจะร่วมกันเห็นชอบให้มีการแก้ไขข้อบังคับการประชุมสภา เพื่อให้มีการตั้งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน เพื่อทำให้การบริหารของ กทม.เป็นไปด้วยความสุจริต โปร่งใส ตอบสนองประโยชน์ของชาว กทม.อย่างแท้จริง และ ส.ก.จากทั้งสองพรรคจะร่วมกันเห็นชอบให้มีการถ่ายทอดสดการประชุมสภา กทม.เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชน

นายวิโรจน์กล่าวว่า ในส่วนของนโยบายที่หาเสียงกับประชาชนไว้ โดยทั้งสองพรรคจะมีการผลักดันร่วมกันผ่านสภา กทม. โดยในส่วนของนโยบายที่พรรคก้าวไกลหาเสียงไว้ ไม่ว่าจะเป็นการแก้ข้อบัญญัติและการทบทวนงบประมาณที่สำคัญต่างๆ ให้สามารถเป็นประโยชน์ต่อประชาชนได้มากที่สุด อย่างเช่น การแก้ข้อบัญญัติให้มีคณะกรรมการ ป.ป.ช.ในสภา กทม. การถ่ายทอดสดการประชุมสภา กทม.

มีรายงานว่า ตำแหน่งประธานสภากทม. มีแนวโน้มสูงที่พรรคเพื่อไทยจะเสนอแคนดิเดตไป 2 รายชื่อ คือนายวิรัตน์ มีนชัยนันท์ ส.ก.มีนบุรี และนายนวรัตน์ อยู่บำรุง ส.ก.หนองแขม เนื่องจากเป็นส.ก.มาหลายสมัย เป็นผู้อาวุโส และสามารถประสานงานได้กับทุกพรรค

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ให้สัมภาษณ์ถึงการเดินหน้าต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว หลังมีผู้ว่าฯ กทม.คนใหม่จะดำเนินการอย่างไร  ต้องถามแนวทางกับผู้ว่าฯ กทม.ด้วยใช่หรือไม่ ว่าถูกต้อง เพราะเรื่องมาจาก กทม. แต่กระทรวงมหาดไทยเป็นคนเสนอเข้ามายัง ครม. เพราะกำกับดูแล แต่เรื่องไม่ใช่เรื่องของกระทรวงโดยตรง เป็นเรื่องของ กทม. ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นก็จะกระทบกับ กทม. สมมุติไม่เห็นชอบก็ต้องควักเงินจ่าย ก็ต้องใช้เงิน กทม.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง